6 ท่าบริหารไล่ลมในท้อง แก้อาการท้องอืด แน่นท้อง

เคยมั้ย? ทานอาหารอร่อยๆ จนอิ่มท้อง แต่หลังจากนั้นไม่นาน ท้องก็เริ่มอืด แน่น จุกเสียด รู้สึกไม่สบายตัว เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนของ "แก๊สในท้อง" ปัญหาที่ใครหลายคนก็เคยเจอ

แก๊สในท้องเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การทานอาหารเร็ว ทานอาหารไม่ย่อย ทานอาหารที่มีไขมันสูง ดื่มน้ำอัดลม ดูดบุหรี่ เครียด ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัวแล้ว ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย

แก๊สในท้องเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าช่วงอายุไหน การสะสมของแก๊สในท้องเกิดจากการที่อาหารในกระเพาะไม่ถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ ทำให้แบคทีเรียในลำไส้ทำการหมักอาหารเหล่านั้นจนเกิดเป็นแก๊สขึ้นมา นอกจากนี้ การกลืนอากาศเข้าไปขณะที่รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดแก๊สในท้องได้

อาการของแก๊สในท้องอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัว เช่น รู้สึกปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง หรือมีเสียงดังในท้อง นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน อาการคลื่นไส้ หรืออาการท้องเสียได้อีกด้วย ดังนั้นการดูแลสุขภาพระบบย่อยอาหารและการขับลมในท้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

แต่ไม่ต้องกังวลไป! เพราะวันนี้เรามีวิธีเด็ดๆ มาแนะนำ นั่นคือ "ท่าบริหารไล่ลมในท้อง" ท่าบริหารเหล่านี้ง่ายๆ ทำได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไร ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด แน่นท้อง และช่วยให้ขับลมในท้องออกได้อย่างง่ายดาย มาดูกันเลยว่ามีท่าอะไรบ้าง

ท่าบริหารไล่ลมในท้องมีหลายท่าที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน หรือแม้แต่ในที่ทำงาน สิ่งสำคัญคือการทำให้เป็นนิสัย เพื่อช่วยลดปริมาณแก๊สในท้อง และป้องกันไม่ให้อาการเหล่านี้กลับมาอีก ตัวอย่างท่าบริหารที่เราจะมาแนะนำมีดังนี้

1. ท่าปั่นจักรยาน

วิธีทำ

1. นอนหงายบนพื้น เหยียดขาตรง
2. ยกเข่าขึ้น 90 องศา เหมือนปั่นจักรยาน
3. ทำช้าๆ ประมาณ 20 ครั้ง
4. สลับข้าง

ท่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยขับลมในท้อง แต่ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง และปรับปรุงการไหลเวียนเลือดในร่างกายได้ดีอีกด้วย

2. ท่ากอดเข่า

วิธีทำ

1. นอนหงายบนพื้น โอบกอดเข่าทั้งสองข้าง
2. ดึงเข่าเข้าหาอก ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที
3. ผ่อนคลาย
4. ทำซ้ำ 10 ครั้ง

การกอดเข่าเป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ลมในท้องถูกขับออกมาได้ง่ายขึ้น

3. ท่าแมว

วิธีทำ

1. เริ่มต้นด้วยท่านั่งคุกเข่า
2. หายใจเข้า ยกศีรษะและก้นขึ้น โค้งหลังลง
3. หายใจออก ก้มศีรษะลง อกแนบพื้น โก่งก้นขึ้น
4. ทำช้าๆ ประมาณ 10 ครั้ง

ท่าแมวเป็นท่าที่ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลดอาการท้องอืดได้ดี

4. ท่าบิดลำตัว

วิธีทำ

1. นอนหงายบนพื้น วางแขนข้างลำตัว
2. ยกเข่าขึ้น 90 องศา
3. บิดลำตัวไปด้านซ้าย เอาเข่าขวาแตะพื้นข้างซ้าย
4. หายใจเข้า ค้างไว้ 5 วินาที
5. ผ่อนคลาย
6. ทำซ้ำอีกข้าง

ท่าบิดลำตัวช่วยในการเคลื่อนไหวของลำไส้ และลดอาการจุกเสียดจากแก๊สในท้อง

5. ท่าลูกสะโพก

วิธีทำ

1. นอนหงายบนพื้น วางแขนข้างลำตัว
2. ยกเข่าขวาขึ้น 90 องศา
3. ดึงเข่าขวาเข้าหาอก ค้างไว้ 5 วินาที
4. ผ่อนคลาย
5. ทำซ้ำอีกข้าง

ท่าลูกสะโพกนี้ช่วยในการคลายกล้ามเนื้อสะโพก และกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยลดแก๊สในท้องได้

6. ท่าทารก

วิธีทำ

1. นั่งคุกเข่าบนพื้น
2. ก้มตัวลง นั่งบนส้นเท้า
3. โน้มตัวไปข้างหน้า วางหน้าผากแตะพื้น
4. เหยียดแขนไปข้างหน้า
5. หายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที

ท่านี้เป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารได้ดี

เคล็ดลับเพิ่มเติม

-ดื่มน้ำอุ่นๆ ช่วยในการย่อยอาหารและลดแก๊สในท้อง

-ทานอาหารช้าๆ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ลดการกลืนอากาศและทำให้ย่อยง่ายขึ้น

-หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น ถั่ว กะหล่ำปลี หัวหอม

-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร

-นวดหน้าท้องเบาๆ ช่วยในการเคลื่อนไหวของลำไส้และขับแก๊ส

นอกจากการทำท่าบริหารที่แนะนำไว้แล้ว การดูแลสุขภาพท้องและการลดอาการท้องอืดยังต้องคำนึงถึงเรื่องการกินอาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันด้วย การปรับปรุงพฤติกรรมการกินอาหารอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดปัญหาแก๊สในท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การหลีกเลี่ยงการกินอาหารเร็ว หรืออาหารที่เป็นสาเหตุของการระคายเกิดแก๊ส และการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และลดความเสี่ยงของการเกิดแก๊สในท้อง การทำท่าบริหารเพื่อไล่ลมในท้องเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่ดี แต่การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหารยังเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย

การนวดหน้าท้องเป็นวิธีที่ช่วยลดอาการท้องอืดได้ดี เนื่องจากช่วยในการขับลมในท้อง การนวดหน้าท้องเบาๆ สามารถกระตุ้นการทำงานของลำไส้และช่วยให้แก๊สออกได้ง่ายขึ้นได้ดี

การดูแลสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่สำคัญอีกด้วย เนื่องจากความเครียดส่งผลต่อระบบย่อยอาหารและเป็นสาเหตุของการเกิดแก๊สในท้อง การฝึกสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมที่ชื่นชอบช่วยให้ลดความเครียดและปัญหาแก๊สในท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ ไม่เพียงแค่ลดอาการท้องอืด อย่าง อาการแน่นท้อง แต่ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น สุขภาพโดยรวมก็จะดีขึ้นด้วย อย่าลืมดูแลตัวเองและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเสมอ เพื่อชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว