แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น ตามวัยรุ่นแดนปลาดิบ
ต้องยอมรับว่าการที่กระแสแฟชั่นของเกาหลีจะเข้าสู่ประเทศไทย แฟชั่นของประเทศญี่ปุ่นหรือว่า J – Style มีอิทธิพลอย่างมากในไทย ในช่วงยุค 90 ที่ช่วงนั้นมีวงดนตรีชื่อดังอย่าง X-Japan รวมถึงบรรดาอนิเมะต่างๆ จากประเทศญี่ปุ่น เลยทำให้แฟชั่นของแดนปลาดิบแพร่หลายเข้ามาอย่างมาก และมีหลายคนชื่นชอบที่จะแต่งตัวแนวนี้ แม้กระทั่งปัจจุบันแฟชั่นของญี่ปุ่นยังคงมีอิทธิพลในประเทศไทยอยู่เสมอ
แฟชั่น J – Style กับความจัดจ้านปนเรียบง่าย
หากใครที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น จะทราบได้ว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์และมีวัฒนธรรมอันเคร่งครัด รวมถึงยังมีแฟชั่นแบบใหม่ๆ ออกมามากมาย ซึ่งแฟชั่นของแดนปลาดิบจะมีทั้งความจัดจ้าน แต่ผสมผสานไปด้วยความเรียบง่ายสไตล์มินิมอล โดยจะเน้นในเรื่องของการคุมโทนสีเป็นหลัก หากใครแต่งครบองค์ประกอบคนที่มองจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือการแต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งแฟชั่นของแดนปลาดิบ สามารถใส่ได้ในทุกโอกาส ใส่ได้ทุกสีผัว รวมถึงทุกรูปร่างแถมยังสามารถนำมาประยุกต์แก้ไข้ให้เข้ากับแฟชั่นของประเทศอื่นๆ ได้อีกด้วย ต่อไปจะไปพบสไตล์การแต่งตัวแบบญี่ปุ่น ว่าจะมีแบบไหนกันบ้าง
แนวทางแต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น ให้เหมาะตามแบบของเรา
การแต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น จะมีอยู่หลายแบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกันออกไป รวมถึงมีรูปแบบการแต่งกายที่ต่างกันออกไป หากใครที่เลือกได้เหมาะกับสไตล์ของตัวเองเมื่อแต่งออกมาแล้วจะดูลงตัวมากที่สุด เมื่อรวมกับเครื่องประดับที่เพิ่มเติมเข้าไป อาจจะทำให้คนแต่งเหมือนมาจากญี่ปุ่นจริงๆ เลยก็ได้ ไปดูกันเลยว่าแนวการแต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น จะมีอะไรกันบ้างแล้วแนวไหนที่จะเหมาะกับคุณ
- Baggy Style – สไตล์แรกเลยคือ “แบ๊กกี้ สไตล์” ด้วยความที่แฟชั่นสไตล์นี้ไม่เน้นว่าเสื้อผ้า, กางเกง จะต้องฟิตพอดีตัว แต่จะไปเน้นในเรื่องของความหลวมของเสื้อผ้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ, เสื้อด้านใน, แจ็คเก็ตด้านนอก และกางเกง ซึ่งการแต่งกายสไตล์นี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้ชายอย่างเดียว ผู้หญิงก็สามารถแต่งตัวสไตล์นี้ได้เช่นเดียวกัน แถมการแต่งสไตล์ “แบ๊กกี้” ยังช่วยปกปิดร่างกายของผู้ใส่สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในรูปร่างหรือบางส่วนของร่างกายอีกด้วย
- Oversize Style – สไตล์ต่อมานี่ถือว่าแพร่หลายมากในหลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่นเองด้วยกับการแต่ตัวแบบโอเวอร์ไซส์ หรือการสวมเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าปกติ แม้ว่าสไตล์จะคล้ายๆ กับ แบ็กกี้ สไตล์ คือเน้นที่ความหลวมของเสื้อผ้าเป็นหลัก แต่กระนั้นได้มีการประยุกต์ให้เป็น Oversize Smart Style นั่นคือการไม่เน้นความหลวมของเสื้อด้านใน แต่จะเน้นเป็นเบลเซอร์มาคุมทับไว้อีกที ส่วนกางเกงจะปล่อยให้ใหญ่เยอะหรือน้อยก็แล้วแต่ผู้ใส่ บวกด้วยรองเท้าสนีกเกอร์สวยๆ ซักคู่ รับรองได้เลยว่าหล่อบาดใจอย่างแน่นอน
- Neutral Style – อย่างที่ได้กล่าวไปว่า แฟชั่นของญี่ปุ่นมีความจัดจ้าน แต่ส่วนมากจะเน้นในเรื่องของธรรมชาติ โดยการคุมโทนสีให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยผู้ที่แต่งตัวสไตล์นี้จะเน้นความสบายและให้เข้ากับธรรมชาติมากที่สุด โดยสีส่วนมากที่ใช้จะเป็นสีขาว, ครีม, น้ำตาลอ่อน หรือสีอ่อนๆ ประเภทพต่างๆ รวมถึงกางเกงอาจจะใช้สีที่กลมกลืนไปกับเสื้อ ส่วนสาวๆ อาจจะหากระโปรงยาวสีอ่อนบวกด้วยเสื้อคลุมสวยๆ ซักตัว หรือหากใครชอบเดรสก็สามารถหยิบมาสวมใส่ได้เช่นเดียวกัน แต่สำหรับใครที่เบื่อกับสีพื้นๆ ก็อาจจะเล่นโทนสีให้ดูซอฟต์และเย็นเหมาะกับอากาศในญี่ปุ่น เช่น สีน้ำเงิน หรือสีเขียว เป็นต้น
- Fabric Style - ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเนื้อผ้าเป็นหลัก ดังนั้นการแต่งตัวสไตล์นี้จะเน้นในเรื่องของเนื้อผ้า แฟชั่นสไตล์นี้จะเน้นในเรื่องของความสบายเวลาสวมใส่ และสามารถใช้งานได้นาน รวมถึงมีความทนทาน โดยทั่วไปการแต่งกายสไตล์นี้ไม่ได้เน้นอะไรมากมาย นอกจากเรื่องของเนื้อผ้า ส่วนมากญี่ปุ่นจะใช้ผ้าลินิน, ผ้าแคนวาส หรือผ้าป่าน แบบเดียวกับที่คนไทยขอบใช้กัน เนื่องจากผ้าพวกนี้มีความทนทานและระบายอากาศได้ดีรวมถึงแห้งง่าย ถือว่าเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่เหงื่อเยอะ ส่วนผ้ายีนส์นั้นคนญี่ปุ่นจะเน้นใส่ในช่วงหน้าหนาวเสียมากกว่า
- Simple Style – หากทั้ง 4 สไตล์ที่กล่าวมายังไม่โดนใจ ลองหันมามองสไตล์แรกเริ่มของแฟชั่นแดนปลาดิบกันบ้าง โดยสไตล์นี้ไม่เน้นอะไรมากเพียงแค่หยิบจับอันนั้นมาผสมกับอันนี้ แล้วครีเอทมันออกมาให้ผู้ใส่พอใจที่สุดแค่นั้นเป็นพอ โดยบางครั้งอาจจะมีการใส่เสื้อลายบ้างบางโอกาส แต่สุดท้ายสีที่ใช้ก็ยังเน้นสีพื้นเบสิกอยู่เหมือนเดิม
- Relaxed Style - สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่อยากจะแต่งกายแบบสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก น่าจะเหมาะกับสไตล์นี้ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รีแล็กซ อาจจะใส่เป็นกางเกงสามส่วนกับเสื้อเชิ้ตหรือกระโปรงกับเสื้อยืดน่ารักๆ ซักตัว เสริมความเท่ความสวยด้วยหมวกหรือว่าแว่นตา บวกด้วยนาฬิกาเก๋ๆ ซักเรือน สำหรับสุภาพสตรีอาจจะเพิ่มด้วยกระเป๋าสะพายซักใบ แค่นี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งทางแล้ว
- Dress and Formal Style – สไตล์นี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่อยากจะลองแต่งตัวเป็นสาวญี่ปุ่น โดยสาวๆ ญี่ปุ่น จะชอบหยิบเอาเสื้อคาดิแกนแบบสั้นมาสวยคู่กระโปรงเพื่อเพิ่มความน่ารักเข้าไปและยังช่วยระบายความร้อนได้ดี หรือใครที่ไม่มั่นใจในรูปร่างอาจจะเลือกใช้เป็นเดรสทรงบอลลูนซึ่งเป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อน หรือหากใครที่ชอบสร้างสรรค์ผลงานอาจจะทักเสื้อไหมพรมให้ตัวเองหยิบเอามาในช่วงหน้าร้อนก็ได้เช่นเดียวกัน และสำหรับสาวๆ ที่ต้องไปทำงานหรือต้องการความน่าเชื่อถือ แนะนำให้ลองหยิบเชิ้ตมาใส่คู่กับกางเกงเอวสูงเพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ใส่ดูสูงขึ้นแล้ว ยังช่วยในความคล่องตัวให้ดียิ่งขึ้นด้วย
ในความเป็นจริงแล้วการแต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น สามารถประยุกต์ได้หลายแบบไม่รู้จบเหมือนกับแฟชั่นของประเทศอื่นๆ สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่อยากจะลองเข้าสู่แฟชั่นJ – Style ลองเอาทั้ง 7 ข้อที่แนะนำไปลองใช้ดู แล้วดูสไตล์ที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด รวมถึงหากอยากได้ของที่มีคุณภาพและราคาไม่แพงลองเข้าที่แอพฯ ขายของออนไลน์ที่ตอนนี้มีให้เลือกมากมาย แถมบางช่วงยังมีการลดราคาแบบจัดหนักจัดเต็มอีกด้วย ลองเข้าไปเลือกดูกัน