บัตร BTS แบบไหนคุ้มสุด 2567

บัตร BTS แบบไหนคุ้มสุด 2567

บัตร BTS ปี 2567 แบบไหนคุ้มค่าที่สุด

เชื่อกันได้เลยว่า ใครที่เดินทางในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยเรา จะต้องประสบปัญหาที่น่าหงุดหงิดใจ นั่นคือ ปัญหาการจราจรติดขัดตามท้องถนน ทำให้หลายคนเลือกที่จะจอดรถยนต์ส่วนตัว แล้วหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯแทน นั่นคือ รถไฟฟ้ามหานคร โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวที่ต้องการความสะดวกสบาย คล่องตัว รวดเร็วและไม่มีของที่ต้องหอบหิ้วแบบพะรุงพะรัง  โดย บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด มีบริการรถไฟฟ้าให้เลือกใช้บริการเดินทางตามความสะดวก มีด้วยกัน 2 แบบนั่นคือ

  1. รถไฟฟ้าแบบใต้ดิน หรือที่เราเรียกย่อว่า  MRT -Mass Rapid Transit
  2.   รถไฟฟ้าแบบลอยฟ้า หรือที่เราเรียกย่อว่า   BTS - Bangkok Mass Transit System

ซึ่งรถไฟฟ้าทั้ง 2  แบบมีเส้นทางการเดินทางที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ต่างของกรุงเทพฯ แต่บางเส้นทางก็เป็นการเดินทางแบบเชื่อมต่อกัน  ทำให้ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางจาก BTS ไป MRT หรือจาก MRT ไป BTS ได้ในบางสถานี นอกจากนี้บางสถานีของรถไฟฟ้ายังมีการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ Airport link สามารถเดินทางไปสนามบินได้ นอกจากนี้ยังเชื่อมกับสถานีรถไฟรางอีกด้วย

  โดยอัตราค่าบริการของรถไฟฟ้าของ BTS และ MRT ก็ขึ้นอยู่กับความใกล้-ไกลของระยะทางที่เดินทาง ผู้โดยสารสามารถจ่ายเงินค่าบริการได้หลากหลาย ทั้งการจ่ายด้วยเงินสด หรือ การซื้อบัตรโดยสารประจำ ก็สามารถทำได้

สำหรับใครที่เดินทาง รถไฟฟ้าแบบลอยฟ้า (BTS) เป็นประจำมักจะนิยมซื้อบัตร BTS ไว้ใช้งานเนื่องจากประหยัดกว่า รวมทั้งยังสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินไปต่อแถวจ่ายเงินซื้อตั๋วขึ้นรถไฟฟ้า โดยบัตร BTS แบบพิเศษ หรือ Rabbit card  ยังสามารถใช้เป็นส่วนลดในการใช้บริการอื่นๆ ทั้งการเดินทางผ่านรถไฟฟ้า MRT ซื้ออาหารเครื่องดื่ม หรือสินค้าได้อีกด้วย เรียกว่ามี บัตร BTS ใบเดียวก็คุ้มค่า จ่ายได้ครบจบในบัตรเดียว

ซึ่งบทความในครั้งนี้ เราขอแนะนำ บัตร BTS ปี 2567 แบบไหนคุ้มค่าที่สุด และเหมาะสมที่สุด เพื่อให้เลือกใช้กันตามความสะดวก โดย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ออกจำหน่ายบัตร BTS ปี 2567  ที่น่าสนใจมีดังนี้

 

 

  1. บัตร BTS แบบเหมาจ่ายรายวัน (One-Day Pass)

บัตร BTS แบบเหมาจ่ายรายวันแบบนี้ เหมาะสมกับผู้โดยสารที่เดินทางไปไหนมาไหนในที่ต่าง ๆ แบบหลายแห่งภายในวันเดียว ตั้งแต่รถเที่ยวแรก เวลา 6.00 น.จนถึงรถเที่ยวสุดท้าย เวลา 24.00 น. ใครที่เลือกซื้อบัตรแบบเหมาจ่ายรายวันแบบนี้สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ไปตามสถานีต่าง ๆ อย่างไม่จำกัด และยังสามารถเดินทางได้กี่ช่วงเวลาก็ได้ เพียงจ่ายเหมาแค่ 150 บาท ถือว่าคุ้มค่ามาก นอกจากนี้ยังสามารถให้เพื่อน ๆ ในที่ทำงานหรือสถานศึกษายืมบัตร BTS นี้ไปใช้ได้ เพราะบัตรนี้ใครก็ถือไปใช้ได้ แต่มีข้อจำกัดคือใช้ได้ภายในวันเดียวเท่านั้น   หากเกินเวลาก็ไม่สามารถใช้บัตรนี้ได้ อีกทั้งเติมเงินในบัตรไม่ได้

  1. บัตร BTS แบบรายเดือน

บัตร BTS แบบรายเดือน หรือบัตร Rabbit   XTREME SAVINGS ซึ่งร่วมกับธนาคารกรุงเทพ สามารถเติมจำนวนเงินลงไปในบัตร BTS ได้ด้วย   โดยผู้โดยสารสามารถเลือก Package เที่ยวเดินทางได้ตามความเหมาะสมกับจำนวนเที่ยวเดินรถที่ต้องการมีทั้งแบบเริ่มต้นที่ 15 เที่ยว ราคาเหมาจ่ายอยู่ที่ 555 บาท เดินทางได้ทั้ง 26 สถานี BTS มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่เที่ยวละ 37 บาท สำหรับนักเรียนนักศึกษา ราคาบัตรจะลดพิเศษเหลือแค่ 450 บาท ค่าเฉลี่ยอยู่ที่เที่ยวละ 30 บาท หากต้องการที่จะเดินทางด้วยจำนวนเที่ยวมากขึ้นใน 1 เดือน (30 วัน) สามารถซื้อ Package เพิ่มเที่ยวเป็น 25 เที่ยว ราคาเหมาจ่ายอยู่ที่ 875 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 35 บาท บัตรนักเรียนนักศึกษา ราคา 700 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 28 บาท และPackage 35 เที่ยวซึ่งถือว่าค้มค่าที่สุด ราคา 1,155 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 33 บาทเท่านั้น สำหรับบัตรนักเรียนนักศึกษา ราคา 910 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 26 บาทเท่านั้น ใครที่เป็นบัตรนักเรียนนักศึกษาแบบนี้ถือว่า คุ้มค่ามากเลย

  1. บัตร BTS แบบราย 2 เดือน

บัตร Rabbit   XTREME SAVINGS ราย 2 เดือนหรือ 60 วัน เป็นบัตร BTS ที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับ ผู้โดยสารที่เดินทางไม่บ่อยมากนัก เพราะกำหนดไว้จำนวน 10 เที่ยว แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่าแบบรายเดือน โดยราคาบัตรสำหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ 390 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 39 บาท สำหรับบัตรนักเรียนนักศึกษา ราคา 310 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 31 บาท

โดยบัตร BTS แบบรายเดือนและราย 2 เดือน ผู้โดยสารที่ถือบัตร BTS สามารถเติมเงินทางสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ทุกสถานี  แต่ต้องเติมเงินขั้นต่ำจำนวน 100 บาทขึ้นไป  หรือต้องการความสะดวกไม่ต้องเดินทางไปที่สถานี สามารถเติมเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือทาง Line ของ Rabbit card ได้เช่นกัน  ดังนั้นการมีบัตร BTS ถือว่าสะดวกและคุ้มค่า โดยเราสามารถเลือก Package แบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับเราแต่ละคนได้อีกด้วย  ใครที่มีคำถามหรือต้องการรายละเอียด เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ทางโทรศัพท์ หมายเลข 02617 7300 หรือทาง  website ของ รถไฟฟ้า BTS ที่  https://www.bts.co.th/   หรือช่องทางอื่น ๆได้ทั้ง Line ของ Rabbit card  รวมทั้งสื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้ง facebook ของ  BTS  ตาม link นี้ https://www.facebook.com/BTSSkyTrain/

ทั้งหมดนี้ เราได้ทำการรวบรวม Package  ต่างๆ ของบัตร BTS ปี 2567 ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มาให้ผู้อ่านทุกท่านได้ ทำการพิจารณาตัดสินใจเลือกว่า บัตร BTS แบบไหนคุ้มค่าที่สุด และเหมาะสมที่สุดในการเลือกใช้บริการ หวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่าน และสิ่งที่สำคัญคือ ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความปลอดภัยทุกเที่ยวเมื่อได้ใช้บริการโดยสารรถไฟฟ้า BTS
กลับไปยังบล็อก