เป็นไข้ห้ามกินอะไร? รวมอาหารต้องห้ามและเมนูบำรุงสุขภาพให้หายไว
ไข้ขึ้นทีไร นอกจากจะรู้สึกไม่สบายตัวแล้ว เรื่องอาหารการกินก็เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะอาหารบางชนิดอาจทำให้อาการทรุดลง หรือหายช้าได้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่า เป็นไข้ห้ามกินอะไร พร้อมแนะนำอาหารที่ควรทานเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว เนื่องจากเมื่อเราเป็นไข้ ร่างกายของเราต้องการพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การเลือกอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งนี้มีอาหารบางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงที่เป็นไข้ เพื่อไม่ให้ร่างกายทำงานหนักเกินไปหรือทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นไข้
- อาหารที่มีไขมันสูง
เมื่อร่างกายมีไข้ ระบบย่อยอาหารจะทำงานช้าลง การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้ง่าย ๆ และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- อาหารทอด เช่น เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด หรือปาท่องโก๋
- เนื้อสัตว์ติดมันทั้งหลาย ช่วงนี้ก็ควรงดก่อน
- อาหารฟาสต์ฟู้ด หรือจังค์ฟู้ดทั้งหลาย
- ครีม เนย และชีสที่มีไขมันสูง
- น้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการ
การย่อยอาหารเหล่านี้ต้องใช้พลังงานมาก ซึ่งอาจทำให้ร่างกายมีพลังงานเหลือน้อยลงในการต่อสู้กับเชื้อโรค ซึ่งก็นับว่าเป็นหลักการง่าย ๆ ที่หลายคนไม่รู้กันมาก่อน
- อาหารรสจัด
อาหารที่มีรสจัด โดยเฉพาะอาหารเผ็ดและเปรี้ยว อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งอาจทำให้อาการป่วยแย่ลงได้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทต่อไปนี้
- อาหารเผ็ด เช่น ต้มยำ แกงเผ็ด หรืออาหารที่ใส่พริก
- อาหารเปรี้ยว เช่น ส้มตำ หรืออาหารที่มีน้ำมะนาวมาก
- อาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ปลาร้า
- ซอสที่มีรสจัด เช่น ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
คาเฟอีนและแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น ในขณะที่เรามีไข้ ซึ่งร่างกายต้องการน้ำมากกว่าปกติ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มต่อไปนี้
- กาแฟ โดยเฉพาะกาแฟที่มีรสค่อนข้างหวาน ซึ่งเมื่อทานแล้วจะได้ทั้งน้ำตาลและคาเฟอีน ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไวขึ้น รับรองว่าหายป่วยยากอย่างแน่นอน
- ชาที่มีคาเฟอีน ซึ่งอาจจะหลีกเลี่ยงด้วยการดื่มชาที่ไม่มีคาเฟอีน ไม่มีน้ำตาล และมีปริมาณน้อย ๆ ค่อย ๆ จิบ อาจจะช่วยขับเหงื่อได้ดี
- น้ำอัดลม อุดมด้วยแก๊สและน้ำตาล ไม่ควรดื่มด้วยประการทั้งปวง
- เครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งจะมีทั้งความหวานและสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด มักจะมีความเชื่อผิด ๆ ของคนไทยที่ว่ากันว่า ดื่มเหล้า+เบียร์จะทำให้สร่างไข้ได้ไว แต่แท้จริงแล้ว แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เกิดอาการหลาย ๆ อย่างตามมา อีกทั้งยังละลายตัวยาที่กินเข้าไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการรักษาอาการไข้หวัดแย่ลงหนักเข้าไปอีก
- อาหารแปรรูปและขนมหวาน
อาหารแปรรูปและขนมหวานมักมีน้ำตาลและสารเคมีสูง ซึ่งอาจรบกวนระบบภูมิคุ้มกันและทำให้การฟื้นตัวช้าลง ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ช็อคโกแลต อาหารกระป๋องที่มีโซเดียมสูง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
นมและผลิตภัณฑ์จากนม
แม้ว่านมจะเป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรตีนที่ดี แต่เมื่อเป็นไข้ ร่างกายอาจย่อยนมได้ยากขึ้น และอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ ควรหลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภค ไม่ว่าจะเป็นนมสด โยเกิร์ต ไอศกรีม หรือชีส
อาหารที่ควรทานเมื่อเป็นไข้
- น้ำเปล่า โปรตีนย่อยง่าย ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และโปรไบโอติก
การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเป็นไข้ เพราะช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ ช่วยให้ร่างกายขับสารพิษ และช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย รวมทั้ง อาหารเหล่านี้ย่อยง่ายและให้พลังงานแก่ร่างกาย นอกจากนี้ ยังสามารถเติมเนื้อสัตว์ในอาหารหรือผักเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการได้ โปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นสารอาหารสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและสร้างภูมิคุ้มกัน ควรเลือกแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น ไก่ ปลา ไข่ หรือโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วเหลือง หรือเต้าหู้ อย่างไรก็ตาม ควรปรุงอาหารให้สุกดีและหลีกเลี่ยงการปรุงแต่งที่มากเกินไป ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ไม่หวานมาก เช่น ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี กีวี เป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อาหารที่มีโปรไบโอติกก็สามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน ซึ่งโปรไบโอติกช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แหล่งของโปรไบโอติก ได้แก่ชาคอมบูฉะ กิมจิ โยเกิร์ต ชนิดที่มีจุลินทรีย์มีชีวิต
- น้ำผึ้ง และชาสมุนไพร
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านจุลชีพ สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและไอได้ การดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งและมะนาวสามารถช่วยบรรเทาอาการและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย แต่ควรทานแต่พอดี ครั้งละน้อยๆ เพราะน้ำผึ้งก็เป็นอาหารที่มีน้ำตาลค่อนข้างจะสูงมากเช่นเดียวกัน ชาสมุนไพรบางชนิด ที่ไม่มีน้ำตาล เช่น ชาขิง ชาคาโมมายล์ หรือชาใบมิ้นต์ อาจช่วยบรรเทาอาการไข้และทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น ชาขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ ส่วนชาคาโมมายล์และชาใบมิ้นต์มีฤทธิ์ผ่อนคลายและอาจช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น การฟื้นตัวของร่างการก็จะดีขึ้นเช่นกัน
เทคนิคเล็กๆน้อยๆ ในการรับประทานอาหารเมื่อเป็นไข้
- รับประทานอาหารครั้งละน้อยแต่บ่อยครั้ง เมื่อเป็นไข้ ความอยากอาหารอาจลดลง การรับประทานอาหารครั้งละน้อยแต่บ่อยครั้งจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือหิวจนเกินไป
- รับประทานอาหารในอุณหภูมิห้อง อาหารร้อนจัดหรือเย็นจัดอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ควรรับประทานอาหารที่อุณหภูมิห้องหรืออุ่น ๆ
- เคี้ยวอาหารให้ละเอียด การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยให้ย่อยอาหารได้ ซึ่งทำให้หายป่วยได้ไวขึ้น