กรีกโยเกิร์ตทำเอง: สุดยอดคู่มือฉบับสมบูรณ์ (ฉบับไม่ต้องต้ม)

กรีกโยเกิร์ตทำเอง: สุดยอดคู่มือฉบับสมบูรณ์ (ฉบับไม่ต้องต้ม)

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายสุขภาพและคนรักโยเกิร์ตทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับกรีกโยเกิร์ต (Greek Yogurt) ตั้งแต่ประโยชน์ ทำไมต้องทำเอง วัตถุดิบ อุปกรณ์ วิธีทำ ไปจนถึงเคล็ดลับ เทคนิค และไอเดียอร่อยๆ ที่จะทำให้คุณหลงรักกรีกโยเกิร์ตมากยิ่งขึ้น

กรีกโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมที่มีความเข้มข้นและเนื้อเนียนนุ่มกว่านมโยเกิร์ตทั่วไป เนื่องจากผ่านกระบวนการกรองเพื่อเอาน้ำและเวย์ (whey) ออก ทำให้ได้โยเกิร์ตที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือเพิ่มโปรตีนในอาหาร

ประโยชน์ของกรีกโยเกิร์ต

กรีกโยเกิร์ตเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี มีไขมันต่ำ มีโปรไบโอติกส์ที่ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร และยังมีแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในเมนูอาหารและของหวานได้หลากหลาย และกรีกโยเกิร์ต หรือที่บางคนเรียกว่าโยเกิร์ตสไตล์กรีก (Greek-Style Yogurt) เป็นโยเกิร์ตที่มีต้นกำเนิดจากประเทศกรีซ แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยรสชาติที่เข้มข้น เนื้อสัมผัสเนียนแน่น และมีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนรักสุขภาพและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือจะเอามาทานเล่นเฉยๆ ก็อร่อยไม่แพ้อาหารว่าง หรือกรีกโยเกิร์ตแบบอื่นๆด้วยนะ

กรีกโยเกิร์ตต่างจากโยเกิร์ตธรรมดาอย่างไร?

กรีกโยเกิร์ตและโยเกิร์ตธรรมดาเป็นผลิตภัณฑ์นมที่มีความคล้ายคลึงกันในบางประการ แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของกระบวนการผลิต คุณค่าทางโภชนาการ และเนื้อสัมผัส ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้กรีกโยเกิร์ตและโยเกิร์ตธรรมดามีลักษณะเฉพาะตัวและเหมาะกับการบริโภคในรูปแบบที่ต่างกัน ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างกรีกโยเกิร์ตและโยเกิร์ตธรรมดาอยู่ที่กระบวนการผลิต โดยกรีกโยเกิร์ตจะถูกกรอง (Strained) เพื่อแยกน้ำเวย์ (Whey) ออก ทำให้เนื้อโยเกิร์ตมีความเข้มข้นและมีปริมาณโปรตีนสูงขึ้น นอกจากนี้ กรีกโยเกิร์ตยังมีไขมันและคาร์โบไฮเดรตต่ำกว่าโยเกิร์ตธรรมดาอีกด้วย

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างกรีกโยเกิร์ตกับโยเกิร์ตธรรมดา

  1. กระบวนการผลิต

กรีกโยเกิร์ต: กรีกโยเกิร์ตผลิตโดยการกรองน้ำและเวย์ (whey) ออกจากโยเกิร์ตธรรมดา ทำให้ได้โยเกิร์ตที่มีความเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มกว่า การกรองนี้มักจะทำให้กรีกโยเกิร์ตมีความเข้มข้นของโปรตีนสูงขึ้นและมีปริมาณน้ำตาลที่ต่ำกว่า

โยเกิร์ตธรรมดา: โยเกิร์ตธรรมดาผลิตโดยการหมักนมด้วยแบคทีเรียที่มีประโยชน์ (เช่น แลคโตบาซิลลัส และสเตรปโตคอคคัส) จนเกิดเป็นโยเกิร์ต โดยไม่ผ่านกระบวนการกรองเพิ่มเติม ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่เบาบางและมีน้ำเวย์ผสมอยู่

  1. คุณค่าทางโภชนาการ

กรีกโยเกิร์ต: มีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตธรรมดา เนื่องจากการกรองน้ำออกทำให้สารอาหารเข้มข้นขึ้น ปริมาณคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในกรีกโยเกิร์ตมักจะต่ำกว่าโยเกิร์ตธรรมดา นอกจากนี้ยังมีปริมาณแคลเซียมที่สูงกว่า แต่บางยี่ห้ออาจมีไขมันสูงกว่าด้วย

โยเกิร์ตธรรมดา: มีปริมาณโปรตีนน้อยกว่ากรีกโยเกิร์ต แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลที่สูงกว่า เป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรไบโอติกส์ที่ช่วยในการย่อยอาหาร

  1. เนื้อสัมผัสและรสชาติ

กรีกโยเกิร์ต: เนื้อสัมผัสของกรีกโยเกิร์ตจะเข้มข้นและเนียนนุ่มมากกว่า มักมีรสชาติเข้มข้นและเปรี้ยวกว่าโยเกิร์ตธรรมดา ทำให้เหมาะสำหรับการบริโภคเป็นของว่างหรือใช้ในการทำอาหารที่ต้องการความเข้มข้น เช่น ซอสหรือดิป

โยเกิร์ตธรรมดา: เนื้อสัมผัสจะเบาบางและเนียนนุ่มน้อยกว่า รสชาติจะเปรี้ยวน้อยกว่าและมีความหวานจากน้ำตาลในนมมากกว่า เหมาะสำหรับการบริโภคเป็นเครื่องดื่มหรือใช้ในเมนูอาหารเช้า

  1. การใช้ประโยชน์ในครัว

กรีกโยเกิร์ต: เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและหนา กรีกโยเกิร์ตจึงสามารถใช้แทนครีมเปรี้ยว (Sour Cream) หรือมายองเนสในสูตรอาหารต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการทำสมูทตี้หรือผสมในเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มโปรตีน

โยเกิร์ตธรรมดา: เหมาะสำหรับการบริโภคเป็นเครื่องดื่มหรือใช้ในการทำสมูทตี้และขนมหวานที่ต้องการเนื้อสัมผัสที่เบาบางกว่า นอกจากนี้ทำไมต้องทำกรีกโยเกิร์ตเอง?

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องทำกรีกโยเกิร์ตเอง ในเมื่อก็มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด แต่การทำกรีกโยเกิร์ตเองมีข้อดีหลายอย่างที่คุณอาจคาดไม่ถึง!

 ประหยัดกว่า: ทำเองถูกกว่าซื้อเยอะ! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนกินกรีกโยเกิร์ตบ่อยๆ

ควบคุมคุณภาพ: เลือกวัตถุดิบเองได้ มั่นใจในความสดใหม่และไม่มีสารกันเสีย

ปรับรสชาติได้: เพิ่มความหวาน เปรี้ยว หรือท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ ไม่ต้องทนกินรสชาติที่ไม่ถูกปาก

สนุกกับการทำอาหาร: ลองทำเองแล้วจะติดใจ ได้ทั้งความอร่อยและความภูมิใจ

ลดขยะ: ไม่ต้องทิ้งถ้วยพลาสติก ช่วยลดปริมาณขยะได้อีกทางหนึ่ง

วัตถุดิบและอุปกรณ์

การทำกรีกโยเกิร์ตไม่ต้องต้มนั้นง่ายมาก ใช้แค่ 2 อย่างหลักๆ คือ:

 โยเกิร์ตรสธรรมชาติ: เลือกโยเกิร์ตที่มีหัวเชื้อจุลินทรีย์ (Live Cultures) จะช่วยให้โยเกิร์ตมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ผ้าขาวบาง: ใช้สำหรับกรองน้ำเวย์ออกจากโยเกิร์ต

นอกจากนี้ อาจมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ช่วยให้การทำกรีกโยเกิร์ตง่ายขึ้น เช่น:

 ชามผสม: สำหรับรองน้ำเวย์ที่กรองออกมา

กระชอน: สำหรับวางผ้าขาวบาง

ยางรัด: สำหรับรัดผ้าขาวบางให้แน่น

เครื่องทำโยเกิร์ต (Yogurt Maker): (ถ้ามี) ช่วยควบคุมอุณหภูมิในการทำโยเกิร์ต

วิธีทำกรีกโยเกิร์ตแบบไม่ต้องต้ม

มาถึงขั้นตอนที่หลายคนรอคอย! วิธีทำกรีกโยเกิร์ตแบบไม่ต้องต้ม ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน แถมอร่อยไม่แพ้ที่ซื้อ!

 

เตรียมผ้าขาวบาง: นำผ้าขาวบางไปล้างให้สะอาด แล้วนำไปแช่น้ำร้อนประมาณ 5 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรค บิดผ้าให้หมาด

 

กรองโยเกิร์ต: นำผ้าขาวบางมาปูบนกระชอน แล้ววางกระชอนบนชามผสม เทโยเกิร์ตลงบนผ้าขาวบาง ปิดด้วยพลาสติกแรป แล้วนำไปแช่ตู้เย็น อย่างน้อย 6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน ยิ่งกรองนาน เนื้อโยเกิร์ตจะยิ่งข้นขึ้น

 

ได้กรีกโยเกิร์ตแล้ว! เมื่อกรองเสร็จแล้ว จะได้กรีกโยเกิร์ตเนื้อเนียนแน่นอยู่ในผ้าขาวบาง ส่วนน้ำที่แยกออกมาคือเวย์โปรตีน (Whey Protein) สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ผสมกับสมูทตี้ หรือใช้รดน้ำต้นไม้ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในขนมอบหรือเมนูอาหารเช้าได้

ของดีและอร่อยที่ห้ามพลาด !

กรีกโยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดน้ำหนัก เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ปรับสมดุลลำไส้ และเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม การทำกรีกโยเกิร์ตเองก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ลองทำตามสูตรและเคล็ดลับที่เราแนะนำ แล้วคุณจะได้กรีกโยเกิร์ตอร่อยๆ ที่ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน!

กลับไปยังบล็อก